Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ชะตากรรมของดาวหางและกำเนิดฝนอุกกาบาต

Posted By Plookpedia | 25 เม.ย. 60
807 Views

  Favorite

ชะตากรรมของดาวหางและกำเนิดฝนอุกกาบาต
ทุกครั้งที่ดาวหางเข้ามาใกล้ดวงอาทิตย์ ดาวหางจะสูญเสียเนื้อสารไปเป็นจำนวนไม่น้อย เพราะทั้งหัว และหางเป็นแก๊สกับฝุ่นที่ไม่กลับไปรวมเป็นนิวเคลียส แต่จะเคลื่อนที่เป็นเมฆฝุ่นไปตามเส้นทางโคจร ของดาวหางดวงนั้น ถ้าดาวหางดวงใดมีทางโคจรผ่านใกล้ หรือตัดกับทางโคจรของโลก เมฆฝุ่นของดาวหางก็จะอยู่ในเส้นทางที่โลกผ่าน เมื่อโลกผ่านเข้าไปในบริเวณนั้น โลกก็จะดึงฝุ่นให้ตกเข้าสู่บรรยากาศโลก ทำให้ฝุ่นเสียดสีกับบรรยากาศ และเกิดเป็นแสงวูบวาบจำนวนมาก เรียกว่า ฝนอุกกาบาต ซึ่งเกิดในระดับสูงประมาณ ๘๐ กิโลเมตร ทางโคจรของดาวหางฮัลเลย์ ผ่านใกล้ทางโคจรของโลกเมื่อวันที่ ๔ พฤษภาคม และ ๒๒ ตุลาคม ทุกปี จึงเกิดฝนอุกกาบาตในวันที่ ๔ พฤษภาคม เรียกว่า ฝนอุกกาบาตเอตา-กุมภ์ (h - Aquarids) และ ฝนอุกกาบาตนายพราน (Orionids) ในวันที่  ๒๒  ตุลาคม
ดาวหางเทมเพล-ทัตเทิล (Tempel - Tuttle) มีทางโคจรตัดกับทางโคจรของโลกในวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน จึงเกิดฝนอุกกาบาต ในวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ทุกปี เรียกว่า ฝนอุกกาบาตสิงโต (Leonids) เพราะจุดกำเนิดออกจากกลุ่มดาวสิงโตตรงบริเวณหัวสิงโต
ดาวหางสวิฟต์-ทัตเทิล (Swift - Tuttle) มีทางโคจรตัดกับทางโคจรของโลกในวันที่ ๑๒ สิงหาคม จึงเกิด ฝนอุกกาบาตเพอร์เซอิดส์ (Perseids) ในวันที่ ๑๒ สิงหาคม ของทุกปี

 

ทางโคจรของโลกกับฝุ่นดาวหางฮัลเลย์
หนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน ฯ เล่ม 31

 

ใจกลางหัวดาวหางฮัลเลย์เล็กลงทุกๆ ครั้งที่ผ่านเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ ความหนาของพื้นผิวจะหายไปครั้งละ ประมาณ ๑ เมตร มวลสารจึงหายไปร้อยละ ๐.๑ - ๑ ของมวลสารทั้งหมดต่อครั้งที่เข้าใกล้ดวงอาทิตย์ ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า จะเกิดอะไรขึ้น หากดาวหางไม่มีแก๊สและฝุ่นที่จะหลุดลอยออกไป จากใจกลางหัว ดาวหางอาจกลายเป็นดาวเคราะห์น้อยหรือแตกสลาย เป็นหลายชิ้นก็ได้ 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
  • Posted By
  • Plookpedia
  • 15 Followers
  • Follow